เชื่อว่าหลายๆ คน ทุกเพศ ทุกวัย เคยลิ้มรส หรืออย่างน้อยต้องเคยผ่านตา ลูกอมฮอลล์ รวมทั้งลูกอมคลอเร็ท หมากฝรั่งเดนทีน คุกกี้โอรีโอ คุกกี้ชิพส์อะฮอย บิสกิตริทซ์ ช็อกโกแลตแคดเบอรี หรือกระทั่งช็อกโกแลตทอปเบอโลน ซึ่งวางขายอยู่ทั่วไป ตั้งแต่ร้านโชห่วย ร้านสะดวกซื้อ จนถึงห้างสรรพสินค้า และมีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับต้นๆ ในธุรกิจ แต่น้อยคนจะรู้ว่าสินค้าเหล่านี้ผลิต และทำการตลาดโดยบริษัทใด
ฮอลล์ โอรีโอ เดนทีน แคดเบอรี เพียบ
ดังนั้น วันนี้ "ทีมข่าวเศรษฐกิจไทยรัฐออนไลน์" จะพาไปพูดคุยในวันสบายๆ กับ "ฐานันท์ สุวรรณรักษ์" ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และทำการตลาดลูกอม ขนม และช็อกโกแลตชื่อดัง ที่กล่าวมาข้างต้น
จุดเริ่มต้นของมอนเดลีซในไทย
บริษัท มอนเดลีซ ชื่อเดิมคือ คราฟท์ ฟู้ดส์ ได้เทกโอเวอร์ แคดเบอรี อาดัมส์ เมื่อปี ค.ศ. 2010 ต่อมาปี ค.ศ. 2012 มีการแบ่งบริษัท โดย คราฟท์ ฟู้ดส์ ดูแลโซนอเมริกาเหนือ ส่วนที่เหลือเป็น มอนเดลีซ ผลิตและทำการตลาดสินค้าขนม เครื่องดื่ม โดยดำเนินธรุกิจมากกว่า 165 ประเทศทั่วโลก พนักงานกว่า 1 แสนคน มีธุรกิจหลายกลุ่มและแบรนด์
สำหรับในประเทศไทยมี 5 กลุ่มสินค้าหลักๆ คือ 1. ลูกอม แบรนด์คุ้นเคย คือ ฮอลล์ และคลอเร็ท 2. หมากฝรั่ง คือ เดนทีน ไทรเด้นท์ และคลอเร็ท 3. บิสกิต เช่น โอรีโอ และริทซ์ 4. ช็อกโกแลต หลักๆ ก็มีแคดเบอรี และทอปเบอโลน โดยแคดเบอรีเพิ่งเปิดตัวเมื่อไตรมาส 4 ปี พ.ศ. 2557 และสุดท้ายกลุ่มที่ 5. ชีส
คุณฐานันท์ ผจก.ใหญ่ประจำประเทศไทย
หลักการดำเนินธุรกิจ
แนวทางธุรกิจจะแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกตั้งเป้าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่การเจริญเติบโต ส่วนแบ่งทางการตลาด และผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ส่วนอีกเรื่องคือ ให้ความสำคัญกับพนักงานมากๆ โดย บริษัทฯ อยากให้คนที่จะเข้ามาทำงาน หรือคนที่ทำงานอยู่ มาทำงานอย่างมีความสุข สนุกกับการทำงาน หลักๆ จะเป็น 2 เรื่อง พนักงานในประเทศไทย รวมทั้งหมดมีประมาณ 1,300 คน อยู่ที่สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ประมาณ 150 คน
ทั้งนี้ การบริหารจัดการสินค้า ก่อนอื่นหลักการของมอนเดลีซ คือ เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีมาก จะต้องเลือกตัวกิจกรรม หรือที่เรียกว่า บิ๊กเบ็ต โดยใช้หลัก 80 ต่อ 20 คือเชื่อว่า 20% ของกิจกรรมที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือกิจกรรมการตลาด จะให้ผลตอบแทน 80% ดังนั้นสิ่งที่เรียกว่า บิ๊กเบ็ต จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้งคน และเงินมีจำกัด
จริงๆ แล้ว มอนเดลีซ หรือ คราฟท์ ฟู้ดส์เดิม อยู่ในไทยมานานหลายสิบปีแล้ว จึงมีหลักการจัดการธุรกิจค่อนข้างจะมืออาชีพ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาเรื่องเหล่านี้ สำหรับมูลค่ายอดขาย ถ้าของทั่วโลกจะอยู่ที่ประมาณ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราการเติบโตขึ้นอยู่กับแต่ละกลุ่มสินค้า แต่ธุรกิจช็อกโกแลตที่เพิ่งเข้ามาทำการตลาดจริงจัง คือ แคดเบอรี เมื่อปลายปี พ.ศ. 2557 มีการเติบโตหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าธุรกิจที่อยู่มานานจะเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5-20 เปอร์เซ็นต์ แล้วแต่ปี แล้วแต่ธุรกิจ
ลูกอมฮอลล์อยู่คู่คนไทยมานานคู่แข่งคือใคร
จริงๆ ไม่ได้มอง คือความจริง มอนเดลีซ เป็นผู้นำตลาด ทั้งหมากฝรั่งและลูกอม โดยหมากฝรั่งมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้มองว่าใครคือคู่แข่ง จะไปแย่งตลาดตรงไหน หรือโจมตีตรงไหน โจทย์คือ จะเติบโตอย่างไร ยกตัวอย่าง ฮอลล์เพิ่งเปิดตัวสินค้าใหม่ ชื่อฮอลล์ XS เปิดตัวไปไตรมาส 4 ในปีที่ผ่านมา เป็นลูกอมไม่มีน้ำตาล รูปแบบใหม่ ถ้าภาษามาร์เก็ตติ้ง คือ เกมเชนเจอร์ ง่ายๆ คือ ออกไปแล้วทำให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือว่าตอบสนองความต้องการผู้บริโภค ทุกวันนี้เป็นตัวที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เปิดตัวไปประมาณ 10 เดือน ฮอลล์ XS อย่างเดียว เป็นเบอร์ 3 แล้วในตลาดลูกอม เติบโตได้อย่างดี ตรงนี้คือบทบาท
สำหรับหมากฝรั่ง เพิ่งเปิดตัวแคมเปญ 'จบทุกมื้อด้วยเดนทีน' ซึ่งแนะนำผู้บริโภคว่า การกินหมากฝรั่งควรกินเวลาไหน และกินอย่างไร เป็นอะไรที่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง จริงๆ โจทย์คือ จะเติบโต และเพิ่มความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างไร เหมือนแข่งขันกับตัวเอง และขยายตลาด
ช็อกโกแลตแคดเบอรี หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของมอนเดลีซ
เหลือเชื่อ! คนไทยกินช็อกโกแลตน้อยอันดับท้ายๆ ของโลก
ในส่วนของตลาดช็อกโกแลตนั้น แคดเบอรี เพิ่งเปิดตัวเมื่อประมาณ 10 เดือนที่แล้ว แต่ล่าสุด ส่วนแบ่งการตลาดช็อกโกแลตโตขึ้นมามากกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าโตมาก เพราะก่อนหน้าจะเปิดตัว แคดเบอรี มีส่วนแบ่งการตลาดไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อก่อนมีแบรนด์เดียวคือ ทอปเบอโลน หมายความว่า ภายใน 10 เดือน เติบโตขึ้นมา 5 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ามาก แต่ถ้าว่าด้วยภาพรวมของตลาดช็อกโกแลตแล้ว ดูจากจำนวนการบริโภคของคนไทย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เราเป็นประเทศที่บริโภคต่ำที่สุด กินน้อยที่สุดประเทศหนึ่ง ดังนั้น โจทย์คือ จะทำอย่างไรให้อัตราการกินช็อกโกแลตเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เมื่อตลาดเติบโต ยอดขายหรือส่วนแบ่งทางการตลาดจะมาเอง
เศรษฐกิจ และการเมือง มีผลต่อธุรกิจขนม-ลูกอม
ปัจจุบัน ปัจจัยที่ส่งผลด้านลบกับธุรกิจนี้ มองว่าเป็นปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจ ซึ่งทุกวันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจไทยอย่างเดียว แต่เป็นเศรษฐกิจของโลก ซึ่งกระทบกับทุกธุรกิจ ส่วนการเมืองนั้น นับเป็นความเสี่ยงอีกประเด็นหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ขณะนี้การเมืองไม่มีปัญหาอะไร
ขนม-ลูกอมหิ้ว มีผลกับธุรกิจหรือไม่
ในส่วนของขนมหิ้ว หรือนำเข้ามาจากต่างประเทศเอง ไม่ได้เป็นปัญหา หรืออุปสรรคอะไรกับธุรกิจ เพราะเป็นสัดส่วนน้อยมาก
สินค้ามาก แต่ละปีใช้งบการตลาดมากน้อยแค่ไหน
งบการตลาดแต่ละปีเยอะมาก เนื่องจากในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์จะมีการลงทุนเยอะ เพราะ มอนเดลีซ เป็นผู้นำด้านขนม ซึ่งแน่นอนว่า ธุรกิจใหญ่ต้องใช้งบเยอะในการทำการตลาด เช่น เมื่อครั้งเปิดตัว แคดเบอรี ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เป็นต้น
ผู้บริหารหนุ่มมากความสามารถของมอนเดลีซ
หลักการเลือกสินค้ามาขายในไทยเป็นอย่างไร
การเพิ่มชนิดของสินค้ามีโอกาสเป็นไปได้แน่นอนที่สุด ทุกวัน และทุกปีจะมีสินค้าใหม่ออกมา เช่น ช็อกโกแลตแคดเบอรี มีสินค้าแบบที่ไม่ต้องไปคิดใหม่ มีอยู่ในประเทศต่างๆ นับไปอีก 5 ปี สามารถเปิดตัวในไทยได้ทุกปี ปีละหลายๆ ตัวด้วยซ้ำ จะเห็นว่าอะไรใหม่ก็มีเปิดตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะ แคดเบอรี ที่เพิ่งเปิดตัวรสใหม่ไป ก็ได้รับการตอบรับดีมาก
มีการคืนกำไรให้สังคม?
โครงการเพื่อสังคมเป็นปัจจัยหลักในการทำธุรกิจด้วย ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นส่วนของคอนซูมเมอร์ แต่อีก 2 ส่วนสำคัญของ มอนเดลีซ คือ พนักงานและสังคม โดยส่วนของสังคมจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นแคมเปญทั่วโลก นั่นคือ คำนึงถึงการมีสุขลักษณะที่ดี ส่งเสริมด้านสุขภาพ เช่น ห่อ หรือซองสินค้า มีการบอกตัวเลขปริมาณแคลอรี่ชัดเจน กระทั่งวัตถุดิบที่ใช้ต้องดีที่สุด มีคุณภาพเยี่ยม รวมทั้งมีการลดการใช้พลังงาน ลดขยะ
นอกจากนั้น ในไทย หรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีแคมเปญ จอยสคูล เพราะสินค้าของบริษัทฯ มีเด็ก และวัยรุ่นกินพอสมควร จึงมีกิจกรรม จอยแชริ่งเดย์ ที่ให้พนักงานไปในโรงเรียนต่างๆ เพื่อทำกิจกรรมกับเด็ก และทำสิ่งที่โรงเรียนอยากได้ โดยมีการบริจาคด้วยในบางส่วน ปีหนึ่งหลายครั้งพอสมควร ซึ่ง จอยสคูล จะเน้นเรื่องสุขภาพเด็กด้วย ให้ความรู้ด้านโภชนาการ โครงการอาหารเช้า ปรับปรุงครัว ออกกำลังกาย และให้งบอาหารเช้า เพราะกลางวันมีงบอยู่แล้ว รวมทั้งชี้ให้เห็นว่าอาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญ
หลักการบริหารคน
เรื่องพนักงาน แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น คือ 1. แง่ของการทำงาน โดยใช้กฎ 70:20:10 โดย 70 คือ ทำงาน ส่วน 20 คือ โค้ชชิ่ง และอีก 10 คือ คลาสเทรนนิ่ง ของบริษัทฯ จะเรียกว่า มอนเดลีซ ยูนิเวอร์ซิตี้ คือ มีการอบรมพนักงาน สร้างความสามารถให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทำงานได้ดีขึ้น
มาถึงประเด็นที่ 2 ตรงนี้ให้ความสำคัญมาก อยากให้พนักงานสนุกในการมาทำงาน ซึ่งในไทยตั้งชื่อว่า ชมรมจอยคลับ จริงๆ แล้ววิชั่นของบริษัทฯ คือ สินค้า จะมองว่าทุกคนที่กินมีความสุข ดังนั้น นอกจากจะให้ความสุขกับผู้บริโภคแล้ว อยากจะให้พนักงานหรือชุมชนมีความสุขด้วย
พนักงาน คือ พนักงานแต่ละแผนกมารวมตัวกันแล้วจัดกิจกรรม ทำให้พนักงานมีกิจกรรมพิเศษ เช่น ปิดบริษัทฯ ครึ่งวัน ไปดูหนังด้วยกัน บางเดือนพาหมอนวดแผนโบราณมาที่สำนักงาน ขณะที่บางเดือนจัดแข่งการตำส้มตำ นอกจากนั้น จะมีกิจกรรมประจำเดือนนำเสอความสำเร็จ มีเกมทำให้พนักงานสนุก และได้มีกิจกรรมเล่น ให้มีความสุขในการมาทำงาน
มอนเดลีซ ผู้ผลิตและทำการตลาดลูกอม ขนม หมากฝรั่งรายใหญ่
การเตรียมรับเออีซีของมอนเดลีซ
การเปิดเออีซีไม่มีผลกระทบ ไม่ได้มองว่ามีความแตกต่างมาก เพราะทุกวันนี้ ขายในประเทศเหล่านี้ อยู่แล้ว โดยในลาวขายผ่านไทยส่งเข้าลาวโดยตรง ส่วนพม่า เวียดนาม มีบริษัทขายอยู่แล้ว แต่จะมีการรวมบริษัทหรือไม่อย่างไรต้องดูต่อไป แต่ไม่มีผลกระทบมาก
ฝากถึงผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์
ในฐานะตัวแทน มอนเดลีซ อยากฝากว่า สินค้าของมอนเดลีซนั้น มีความภูมิใจในผลิตภัณฑ์ เพราะทุกกลุ่มสินค้ามีมานานมาก เช่น ฮอลล์อยู่ในไทยมานานกว่า 50 ปี ปีหน้าจะมีแคมเปญพิเศษ ต้องรอติดตาม เชื่อว่าตื่นเต้นแน่ หมากฝรั่งเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ แคดเบอรีมีสินค้าออกมาใหม่เรื่อยๆ โอรีโอก็เป็นสินค้าที่คนทั่วโลกรู้จักอยู่แล้ว นอกจากนั้น จะมีสินค้าใหม่ๆ ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในอีก 2 เดือนข้างหน้า มอนเดลีซขอส่งสุขให้คนไทยกับการบริโภค.
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด